 |
| หลังหายนะโลกาวินาศ เป็นเวลาเกือบสามทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่เชื้อไวรัสหายนะหลุดออกมาจากห้องทดลองอาวุธชีวภาพ และในตอนนี้ แม้จะยังคงมีการกักกันอย่างเข้มงวด บางคนก็หาวิธีเอาชีวิตรอดท่ามกลางเหล่าผู้ติดเชื้อได้ โดยหนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตนี้อาศัยอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานเส้นเดียวที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา แต่เมื่อหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มออกจากเกาะเพื่อปฏิบัติภารกิจในส่วนลึกของแผ่นดินใหญ่ เขาก็ได้ค้นพบความลับ ความมหัศจรรย์ และความสยองขวัญที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ผู้ติดเชื้อ แต่รวมถึงผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ด้วย |
พ.ศ. 2568 ‧ สยองขวัญ/กระตุกขวัญ ‧ 1 ชม. 55 นาทีโจดี้ โคเมอร์ รับบทเป็น อิสลา ภรรยาของเจมี่ ที่กำลังต่อสู้กับโรคลึกลับแอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน รับบทเป็น เจมี่ นักเก็บของเก่าและสามีของอิสลาแจ็ค โอคอนเนลล์รับบทเป็นเซอร์จิมมี่ คริสตัล ผู้นำ ลัทธิ "จิมมี่" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก จิมมี่ เซวิลล์และผู้รอดชีวิตจากการระบาดครั้งแรกร็อคโค เฮย์นส์ รับบทเป็น จิมมี่ คริสตัล สมัยหนุ่มอัลฟี่ วิลเลียมส์รับบทเป็น สไปก์ ลูกชายวัย 12 ปีของเจมี่และไอลาราล์ฟ ไฟนส์รับบทเป็น ดร. เอียน เคลสัน อดีตแพทย์และผู้รอดชีวิตจากการระบาดEdvin Rydingรับบทเป็น Erik Sundqvist ทหารสวีเดนชี ลูอิส-แพร์รี รับบทเป็น "แซมสัน" ผู้นำอัลฟ่าผู้แข็งแกร่งของผู้ติดเชื้อคริสโตเฟอร์ ฟูลฟอร์ด รับบทเป็นแซม เพื่อนของเจมี่และผู้อยู่อาศัยบนเกาะสเตลล่า โกเน็ต รับบทเป็น เจนนี่ สมาชิกสภาผู้นำของเกาะ
เป็นเวลาเกือบสามทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่เชื้อไวรัสหายนะหลุดออกมาจากห้องทดลองอาวุธชีวภาพ และในตอนนี้ แม้จะยังคงมีการกักกันอย่างเข้มงวด บางคนก็หาวิธีเอาชีวิตรอดท่ามกลางเหล่าผู้ติดเชื้อได้ โดยหนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตนี้อาศัยอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานเส้นเดียวที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา แต่เมื่อหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มออกจากเกาะเพื่อปฏิบัติภารกิจในส่วนลึกของแผ่นดินใหญ่ เขาก็ได้ค้นพบความลับ ความมหัศจรรย์ และความสยองขวัญที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ผู้ติดเชื้อ แต่รวมถึงผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ด้วย
ในปี 2002 ระหว่างการระบาดครั้งแรกของไวรัส Rage เด็กชายจิมมี่ คริสตัล หนีออกจากบ้านในที่ราบสูงสก็อตแลนด์ขณะที่ครอบครัวของเขาถูกโจมตีโดยผู้ติดเชื้อ เขาหลบภัยในโบสถ์ท้องถิ่นกับพ่อซึ่งเป็นบาทหลวง แต่พบว่าเขากำลังสวดมนต์ด้วยความปิติยินดี เพราะเขาตีความว่าไวรัสเป็นลางบอกเหตุของวันสิ้นโลกและวันพิพากษาพ่อของจิมมี่มอบสร้อยคอรูปไม้กางเขน ให้เขา และช่วยให้เขาปลอดภัยก่อนที่จะยอมจำนนต่อผู้ติดเชื้อขณะที่พวกเขาบุกเข้ามา
ยี่สิบแปดปีหลังจากการระบาดครั้งที่สอง ไวรัส Rage ถูกกำจัดออกไปจากทวีปยุโรป ขณะที่หมู่เกาะอังกฤษยังคงอยู่ภายใต้การกักกันอย่างไม่มีกำหนดโดยมีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน ชุมชนที่เจริญแล้วยังคงดำรงชีวิตอยู่บน เกาะ Lindisfarneซึ่งเป็นเกาะที่ได้รับการป้องกันตามธรรมชาติจากบริเตนใหญ่ด้วยทางเชื่อมที่ท่วมท้นไปด้วยกระแสน้ำในบรรดาชุมชนเหล่านี้มี Jamie คนเก็บขยะ Isla ภรรยาของเขาซึ่งมีอาการป่วยทางจิต และ Spike ลูกชายวัย 12 ปี Jamie และ Spike ข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ของบริเตนใหญ่เพื่อทำ พิธีกรรมล่า สัตว์เพื่อบรรลุนิติภาวะพวกเขาพบผู้ติดเชื้อถูกมัดและตีตราชื่อ "Jimmy" และหลบหนีจากฝูงผู้ติดเชื้อที่นำโดย " อัลฟ่า " ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่พัฒนาแล้วที่แข็งแกร่งและฉลาดกว่า
พวกเขาพักค้างคืนในห้องใต้หลังคาของกระท่อมทรุดโทรม ซึ่ง Spike สังเกตเห็นเรือต่างชาติลาดตระเวนกักกันและไฟไหม้ในแผ่นดิน เมื่อห้องใต้หลังคาถล่ม อัลฟ่าไล่ตามเจมี่และสไปค์ข้ามทางเดินที่ถูกน้ำท่วมเพียงบางส่วน จนกระทั่งทหารยามของหมู่บ้านสังหารมันด้วย เครื่อง ยิง หิน
หมู่บ้านจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับสไปค์เพื่อฉลองการสังหารครั้งแรกของเขา สไปค์รู้สึกไม่พอใจกับการเสริมแต่งการกระทำของเจมี่ และพบว่าตัวเองมีสัมพันธ์กับโรซี่ ครูประจำหมู่บ้าน เขาจึงปรึกษาเรื่องไฟไหม้กับแซม เพื่อนของครอบครัว ซึ่งบอกว่าเป็นดร.เอียน เคลสัน อดีตแพทย์ ประจำ หมู่บ้านที่ถูกเนรเทศ
เช้าวันรุ่งขึ้น สไปค์เผชิญหน้ากับเจมี่เกี่ยวกับความไม่เต็มใจที่จะไปพบแพทย์เพื่อดูแลอิสลาและการนอกใจของเขา เจมี่ยืนยันว่าเคลสัน ซึ่งเขาเคยเห็นศพถูกเผาเป็นจำนวนมากนั้น มีสภาพจิตใจไม่มั่นคงพอที่จะช่วยเหลือได้ สไปค์ไม่เชื่อ จึงหนีออกจากเกาะพร้อมกับอิสลา สไปค์และอิสลาได้รับการช่วยเหลือจากฝูงผู้ติดเชื้อโดย เอริค ซุนด์ควิสต์ กะลาสีเรือสวีเดนผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจาก เรือลาดตระเวน กักกันของนาโต้ ที่เกยตื้น อิสลาพบผู้ติดเชื้อตั้งครรภ์และช่วยคลอดทารกหญิงที่ไม่ติดเชื้อ เอริคผู้หวาดระแวงยิงแม่ที่ติดเชื้อและขู่ว่าจะฆ่าไอลาและสไปค์พร้อมกับทารกแรกเกิดหากพวกเขาไม่ยอมให้เขาฆ่ามัน แต่พ่อผู้เป็นอัลฟ่าก็ปรากฏตัวขึ้นและตัดหัวเขา
ดร.เคลสันปรากฏตัวขึ้นและปราบอัลฟ่าที่เขาตั้งชื่อให้ว่าแซมสัน ด้วยปืนเป่าลมและลูกดอกไซลาซีนเคลสันนำสไปค์และอิสลาไปยังอนุสาวรีย์ที่เขาสร้างขึ้นจาก กระดูกมนุษย์ ที่ทำความสะอาดแล้วเขาอธิบายแนวคิดงานศพแบบเมเมนโต โมริและนำกะโหลกของเอริคมาใส่ไว้ในอนุสาวรีย์ เคลสันตรวจดูอิสลาและสรุปว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเคลสันปลอบใจสไปค์โดยแนะนำเมเมนโต อาโมริส – "จำไว้ว่าคุณต้องรัก" อิสลาและสไปค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายร่วมกัน ขณะที่เธอยอมรับความตายและจัดการให้เคลสันทำการุณยฆาตหลังจากนั้นเขาจึงมอบกะโหลกของเธอให้สไปค์นำไปวางไว้บนยอดอนุสาวรีย์
เมื่อแซมสันแทรกซึมเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์ สไปค์สามารถต้านทานเขาไว้ได้ ช่วยชีวิตเคลสันไว้ได้ เคลสันสนับสนุนให้สไปค์กลับบ้านพร้อมกับทารก แต่สไปค์กลับทิ้งเธอไว้ที่ประตูหมู่บ้านและกลับไปยังแผ่นดินใหญ่โดยยังคงผิดหวัง เจมี่อ่านข้อความจากสไปค์ที่เปิดเผยว่าเขาตั้งชื่อเด็กหญิงตามอิสลาและสัญญาว่าจะกลับมาเมื่อพร้อม เจมี่พยายามติดตามไปแต่ถูกกระแสน้ำขึ้นขวางไว้ ยี่สิบแปดวันต่อมา สไปค์ได้รับการช่วยเหลือจากฝูงผู้ติดเชื้อโดยกลุ่มที่เลียนแบบบุคลิกภาพสื่อของอังกฤษจิมมี่ ซาวิลล์ เขาได้รับการต้อนรับจากผู้นำของพวกเขา จิมมี่ คริสตัลวัยผู้ใหญ่ ซึ่งตอนนี้ถือไม้กางเขน คว่ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น